วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ศาลาวัด





วัดสะอาด


ศาลาวัด



"ดูวัดให้ดูถาน ดูสมภารให้ดูจั่วน้อย" คำพังเพยโบราณอีสานว่าไว้เป็นคดติสอนใจว่า ถ้าจะดูว่าวัดสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบเรียบร้อยหรือไม่ ก็ต้องดูห้องน้ำห้องสุขา จะดูสมภารเจ้าวัด น่าเคารพกราบไหว้หรือไม่ ก็ต้องดูวัตรปฏิบัติของพระภิกษุ-สามเณรในวัดนั้น วัดมีบทบาทเป็นศูนย์รวมของคนในชุมชน มากกว่าสถานที่จำพรรษาของพระสงฆ์และประกอบพิธีทางศาสนาเท่านั้น

ดัง นั้น ในสายตาของคนทั่วไป จึงมองวัดเป็นสถานที่ที่มีความสะอาดสะอ้าน มีภูมิทัศน์ที่เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรม เงียบสงบร่มรื่น แต่ด้วยสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป วัดส่วนใหญ่จึงมีพื้นที่อยู่ติดกับชุมชนหรือติดกับร้านค้าตลาดมากมาย บางแห่งมีร้านค้าแผงลอยตั้งเป็นจำนวนมาก

อีกทั้งวัดเป็นทางผ่าน เชื่อมต่อระหว่างชุมชนหนึ่งไปยังอีกชุมชนหนึ่ง มีคนเดินผ่านเข้าออกเป็นจำนวนมาก ทำให้ตามซอกมุมของวัดบางแห่ง มีเศษกระดาษและถุงพลาสติก ตกกองอยู่เกลื่อน วัดบางแห่งยังมีปัญหาที่มีคนมักง่ายนำสัตว์เลี้ยงประเภทหมาแมว มาปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นภาระของวัด ด้วยความสงสาร วัดจำต้องรับเลี้ยงคอยดูแลหาอาหารมาให้สัตว์เหล่านั้น จนบางครั้ง ส่งผลให้เกิดปัญหาตามมา ทำให้สภาพภายในวัดสกปรก มีกลิ่นฉี่แมวเหม็นกึก กองขี้หมากระจายไปทั่วบริเวณ

ทำให้ภาพของวัดวาอาราม ที่ควรจะแลดูสะอาดตา เกิดเป็นทัศนะอุจาดไม่น่ามองเป็นอย่างยิ่ง

การ แก้ไขเป็นสิ่งสำคัญ จำเป็นต้องขอความร่วมมือร่วมใจจากพระภิกษุ-สามเณร และพุทธศาสนิกชน รวมทั้งชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้วัด คอยดูแลเป็นหูเป็นตา

พ่อแม่ที่มีลูกหลานซุกซน ต้องคอยห้ามปรามมิให้เด็กๆ ขีดเขียนวาดรูปวาดภาพบนรั้วผนังอาคารหรือในที่สาธารณะนั้น พระสงฆ์เองก็ไม่ควรติดตั้ง ตาก วาง หรือแขวนจีวรสิ่งใดๆ ในที่สาธารณะหรือที่มองเห็นได้จากที่สาธารณะ โดยไม่ควรหรือทำให้มองดูแล้วไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย คนที่เดินผ่านไปผ่านมาในวัด ควรห้ามบ้วน สั่งหรือถ่มน้ำลาย น้ำมูก น้ำหมาก เสมหะหรือทิ้งสิ่งปฏิกูลใดๆ ลงบนท้องถนนหรือตามพื้นวัดรถ

ส่วน เรื่องห้องน้ำหรือห้องส้วมก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยเป็นห้องที่มีความสำคัญสำหรับทุกวัด เพราะเป็นห้องที่มีโอกาสสกปรกและเกิดเชื้อโรคได้ง่าย จึงควรต้องทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคต่างๆ

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการมหาเถรสมาคม ก็มีความห่วงใยในเรื่องความสะอาดของวัด พระภิกษุ-สามเณร และประชาชนที่เข้าวัด จึงได้กำชับให้พระสังฆาธิการแต่ละวัด สั่งการให้พระลูกวัดหมั่นดูแลทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ภายในวัด หมั่นล้างทำความสะอาดกุฏิ ห้องน้ำ ห้องเก็บของให้สะอาด รวมทั้งการซักล้างผ้าจีวรให้สะอาด ตากแดดให้แห้ง

ทุกฝ่าย จึงควรให้ความสำคัญต่อการดูแลรักษาวัดให้สะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น